กระจก Sapphire Crystal คืออะไร กระจก Sapphire นั้น ผลิตจากแซพไฟร์สังเคราะห์ คอรันดัม (Corundum) หรืออะลูมิเนียมออกไซด์ (Aluminum Oxide – Al2O3) มีความแข็งระดับ 9 ตาม ‘Moh Scale’ (โมห์ สเกล) ทนรอยขีดข่วนได้ดีมาก แต่ถ้ามีการกระแทกหรือโดนทิ่มแทงอย่างแรงในบางทิศทางก็จะทำให้แตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ แซพไฟร์สังเคราะห์นี้มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าแซพไฟร์ที่เป็นอัญมณีธรรมชาติมากมายหลายเท่า โดยอาจจะซื้อหาได้ในราคาหลักร้อยบาท นาฬิกาที่ใช้คริสตัลแซพไฟร์เป็นกระจกหน้าปัดนั้นมี อาทิ Rolex Day-Date (โรเล็กซ์ เดย์เดท) ตั้งแต่รุ่นปี 1980 เป็นต้นมา Omega Speedmaster Broad Arrow (โอเมก้า สปีดมาสเตอร์ บรอด แอร์โรว์) ที่ใช้กลไก Cal.3303 หรือ Rolex Datejust Ref.16013 และ Panerai Marina (พาเนอไร มารินา) Ref.PAM111 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่นปัจจุบันอีกหลายร้อยหลายพัน โดยคริสตัลแซพไฟร์มีความใสมากสุด และมีต้นทุนการผลิตสูงสุด
– ในธรรมชาติ เพชร แข็งสุดที่ 10
– กระจกมีความแข็ง ที่ 4.5-7 แล้วแต่ละชนิด และขั้นตอนการผลิต โดย Glass , Mineral glass,Hardended mineral ,K1 ก็อยู่ในกลุ่นนี้ มีความแข็งตามลำดับ
– Sapphire คือกลุ่มของ Corumdum มีความแข็งระดับ 9
Sapphire ที่เราพบในชีวิตประจำวัน ได้แก่
– ทับทิม = Ruby ( Red Sapphire )
– ไพลิน = Blue Sapphire
– บุษราคัม = Yellow Sapphire
Sapphire ที่ใช้ทำกระจกนาฬิกา จะเป็น ซัฟไฟร์สังเคราะห์ ซึ่งความแข็งจะได้อยู่ประมาณ 8.5-9.0
** ทำไมกระจกถึงเป็นรอย **
– ในธรรมชาติมีแร่ Quartz , Silicon ที่มีความแข็ง 7 อยู่มากที่สุด ประปนในหิน ดิน ทราย และ อากาศ ดังนั้น กระจกที่มีความแข็งไม่เกิน 7 เมื่อขีดข่วนกับแร่เหล่านี้จึงเกิดรอยได้ทั้งหมด ส่วนมากเกิดตอนไม่สังเกตุ
** สีกระจก อมม่วงน้ำเงิน คือซัฟไฟร์ หรือไม่ **
– สีกระจก อมม่วงน้ำเงิน คือการเคลือบมัลติโค้ด เหมือนแว่นตา เพื่อให้เกิด การตัดแสง เวลามองจะเห็นหน้าปัดได้ชัดขึ้น และเพื่อความสวยงาม ซึ่งกระจกทั่วไปรวมถึงซัฟไฟร์สามารถเคลือบมัลติโค้ดได้หมด
ค่าระดับความแข็ง Mohs